Popular Posts

Tuesday, April 23, 2013

ขั้นตอนการเปิดร้านขายลูกชิ้น


ขั้นตอนการเปิดร้านขายลูกชิ้น
 
ต้องบอกเลยครับถ้าพูดถึงลูกชิ้นเนี่ยเป็นอะไรที่ไม่มีทางเลยที่จะขาดทุนถ้าทำเลพอใช้ได้นะครับ เพราะมันเป็นอะไรที่ขายได้ง่ายหละครับ ผมคิดว่ากำไรรวมค่า เเก๊ส ค่าน้ำมันเเล้วผมว่ายังได้นะครับ 50 50 เลยเเหละครับ เช่นไม้ละ 10 บาท พี่เเกต้องได้กำไร 4-6 บาทหละครับ
มาดูธุรกิจขายลูกชิ้นกันนะครับพี่น้อง
คุณลาภ  จิตต์เที่ยง ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ฟู๊ด โปรดักชั่น จำกัด กล่าวถึงที่มาของการเข้าดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังว่า
“ผมได้เข้ามาสานต่อธุรกิจอย่างจริงจังเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากว่าต้องการเข้ามาสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และให้คนรู้จักแบรนด์และสินค้าของเราให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ กับการรักษาสิ่งเดิมที่บรรพบุรุษทำไว้อย่างดี กับการต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งๆขึ้น ภายใต้การแข่งขันของธุรกิจกับเป้าหมายที่ต้องการเป็นเบอร์ 1 ของตลาดลูกชิ้น โดยเริ่มแรกได้จัดการเรื่องการบริหารจัดการองค์กรใหม่ในรูปแบบบริษัท แต่ก็ยังคงบริหารธุรกิจในรูปแบบครอบครัว โดยมีพี่น้องและหลานๆเข้ามาบริหารงาน และจ้างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาเสริมทัพในอนาคต ผมมองว่าลูกชิ้นเราอยู่ได้กว่า 30 ปี โดยไม่ได้ทำตลาดเลย เรื่องความอร่อย ผมว่าเป็นต้นทุนเดิมของเราอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ต้องการเสริมเข้ามาคือเรื่องของมาตรฐาน การันตีได้ว่า โรงงานของเราสะอาด ปลอดภัย ไม่มีวัตถุที่เป็นพิษหรืออันตรายปะปน ดังนั้น การสร้างแบรนด์จะมุ่งที่รักษารสชาติดั้งเดิมที่ลูกค้าชื่นชอบ เสริมด้วยการนำเสนอถึงความปลอดภัย ที่สำคัญผมได้ลงทุนทำธุรกิจฟาร์มวัว ฟาร์มหมูขึ้นมาเป็นของตัวเอง เพื่อควบคุมคุณภาพวัตถุดิบและจัดส่งเข้าสู่โรงงาน เพื่อทำการผลิตแปรรูปเป็นลูกชิ้นในช่วงกลางดึกจนถึงเช้าตรู่ของทุกวันเพื่อให้เซลเนื้อสัตว์ยังคงอยู่ เพื่อรักษาคุณภาพ ความสด และรสชาติ และโรงงานยังได้มีการปรับปรุง เพื่อเข้าสู่มาตรฐานทั้ง GMP ฮาลาส และกำลังเข้าสู่มาตรฐาน HACCP มีกำลังผลิตกว่า 8-10 ตันต่อวัน นอกจากนั้น ยังมีการแยกส่วนการผลิตระหว่างลูกชิ้นเนื้อ และลูกชิ้นหมูออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อถือแก่ผู้บริโภค”
 
สร้างโอกาส…..ผ่านรถเข็นก๋วยเตี๋ยว
ในปี 2552 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในเชิงรุก เพื่อส่งวัตถุดิบให้สาขากว่า 1,500 จุด ได้ครอบคลุม และรวดเร็วยิ่งขึ้น ตั้งศูนย์กระจายสินค้าประจำภาค ทั้งภาคกลางที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่เชียงใหม่ ภาคอีสานที่นครราชสีมา และภาคใต้ที่ชุมพร แบ่งเป็น 30% ในกรุงเทพ และอีก 70% ตามต่างจังหวัด เพื่อการกระจายสินค้าให้ได้ทั่วทุกจังหวัด ทำให้ลูกค้าติดต่อง่ายขึ้นสะดวกขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ “ในปี 52 จะมีการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดจากธุรกิจในเชิงของแบรนด์ติดตลาดเป็นที่รู้จักของลูกค้ามานาน และมีรสชาตถูกปาก นั่นคือการขยายช่องทางการจำหน่ายจากการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายส่ง สู่ธุรกิจค้าปลีก ในรูปแบบโอกาสธุรกิจ เพื่อสร้างอาชีพแก่ผู้บริโภคขึ้นมา”

สำหรับการลงทุนรถเข็นก๋วยเตี๋ยวนั้น แบ่งได้เป็น 2 ขนาดคือ
รถเข็นเล็ก ประกอบด้วยรถ+ตู้+หม้อ 1 ใบ + ป้าย 3 ด้าน ราคา 15,000 บาท เงินดาวน์ 5,000 บาท ผ่อนเดือนละ 1,500 บาท จำนวน 8 เดือน รวมเป็นเงิน 17,000 บาทรถเข็นคันใหญ่ รถ+ตู้+หม้อ 2 ใบ+ไฟฟ้า+ป้าย 3 ด้าน ราคา 25,000 บาท เงินดาวน์ 8,500 บาท ผ่อนเดือนละ 1,500 บาท จำนวน 13 เดือน รวมเป็นเงิน 28,000 บาทคุณลาภ กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากว่าเราเน้นธุรกิจที่เป็นรถเข็น ไม่ได้ขายตามห้างสรรพสินค้า จะเน้นเป็นรถเข็นที่ไปอยู่ตามชุมชนต่างๆ ของจังหวัด ตามตลาด ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาเขาจะมีความต้องการที่อยากจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ผมก็จะซัพพลอตให้ เหมือนเป็นที่ปรึกษาด้านการทำธุรกิจก๋วยเตี๋ยว เช่นการหาทำเล ส่วนการอบรมนั้นผมก็จะสอนให้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้างเป็นขั้นตอน เช่น การขายก๋วยเตี๋ยวต้องทำอย่างไร ดูแลลูกค้าอย่างไร ดูแลความสะอาดร้าน ที่สำคัญผมจะสอนเรื่องการปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยวให้มีมาตรฐาน แต่ว่าแต่ละภูมิภาค ก็ต้องมีการปรับเพื่อให้เข้ากับชุมชนของตัวเอง
 
ผมเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีเงินลงทุนน้อยที่ต้องการทำธุรกิจถ้าไม่มีเงินลงทุน สามารถผ่อนชำระกับทางบริษัทได้  คุณสมบัติที่สำคัญคือต้องมีความตั้งใจจริงในการทำธุรกิจ ขยัน อดทน  ส่วนการสั่งซื้อสินค้า ทางบริษัทฯ ไม่บังคับจำนวนในการสั่งซื้อของลูกค้า เพราะถือว่าการสต๊อกสินค้า ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า แต่ทางบริษัทฯ จะมีพนักงานในการบริการจัดส่งสินค้าภายในเวลากำหนด โดยไม่เสียค่าบริการใดๆทั้งสิ้น ส่วนวัตถุประสงค์หลักของบริษัทฯ คือ ต้องการมีจุดปล่อยวัตถุดิบลูกชิ้นเพิ่มขึ้น

ดังนั้น หากมีคนเข้ามาเป็นสาขาจำนวนมากขึ้น ก็จะยังเพิ่มโอกาสให้ยอดขายของบริษัทฯ ดีขึ้นด้วย และเมื่อผลิตในปริมาณยิ่งมากต้นทุนจะต่ำลงด้วยเช่นกัน ด้านการวางตำแหน่งเพื่อไม่ให้แย่งลูกค้ากันเองนั้น ผมใช้วิธีง่ายๆคือ แต่ละสาขาต้องไม่สามารถมองเห็นกันได้ในระดับสายตา ส่วนการดูแลคุณภาพให้เสมอกันทุกแห่ง และได้วางระบบทีมสุ่มตรวจ หากพบสาขาใด ไม่ปฎิบัติตามข้อตกลง ขั้นแรกจะตักเตือน ถ้าไม่ปรับปรุงอีกจะทำการยึดป้ายคืน บริษัทพร้อมอบรมให้กับผู้ที่สนใจร่วมลงทุน ผมคำนึงเสมอว่าคนที่มาร่วมธุรกิจกับเราแล้ว ย่อมเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ผมอยากให้เขาเดินทางไปพร้อมกับผม และบริษัทมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยการขึ้นป้ายแบรนด์ที่ร้านรถเข็น และขยายไปยังกลุ่มผู้ตกงานที่กำลังมองหาอาชีพ หรือกลุ่มที่ต้องการรายได้เสริมมากขึ้น”
 
ส่วนการแข่งขันนั้น คุณลาภ กล่าวว่า “แม้ธุรกิจกลุ่มอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว จะมีการแข่งขันสูงรายใหญ่ในตลาด มีการขยายสาขาไปทั่วประเทศ แต่ตลาดของของธุรกิจนี้ยังมีช่องว่าง ด้วยมั่นใจกับคุณภาพสินค้า เกรดเอ เพราะหากมองถึงผู้ผลิตในระดับเกรดเอแล้ว ในตลาดมีเพียงไม่กี่รายเท่านั้น นอกจากนั้นเป็นแบรนด์เล็ก และผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในตลาดล่าง หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมแป้ง ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของลูกชิ้นปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และเป็นโอกาสของผู้ผลิตที่มีคุณภาพ นอกจากการเปิดแผนเชิงรุกแล้ว บริษัทมีการขยายเครือข่ายร้านรถเข็นก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทอยู่ระหว่างการขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้าต่างๆ และมีการสร้างสินค้าใหม่ๆ ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้สามารถนำไปรับประทานกันในครอบครัวได้ และอาจจะมีทำบรรจุภัณฑ์ ให้มีรูปแบบใหม่ๆให้ทันสมัยมากขึ้น”
 
สุดท้ายคุณลาภกล่าวถึงการทำธุรกิจที่ได้มาจากพ่อและแม่ว่า “การทำธุรกิจของบริษัทคือการเดินเข้าหาลูกค้า และเน้นสร้างความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยใช้หลักการ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาใช้เพื่อทำให้ลูกค้ามีความเป็นภักดีกับตราสินค้าของบริษัทเรามากขึ้น”

สนใจธุรกิจลูกชิ้น “นำชัย” โทร. 02 294 1986

No comments:

Post a Comment